บล็อกเกอร์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอน และเป็นตัวอย่างในการเรียน ในรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ยอดเขาโมโกจู จังหวัดนครสวรรค์


       ยอดเขาโมโกจู เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และสูงที่สุดในผืนป่าตะวันตก ห่างจากอุทยานฯ ประมาณ ๓๘ กิโลเมตร เป็นยอดเขาที่นักท่องเที่ยวที่นิยมการท่องเที่ยวแบบเดินป่า ปีนเขา ต้องการที่จะไปเยือนสักครั้ง ด้วยความสูง ๑,๙๖๔ เมตร คำว่า โมโกจู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า เหมือนฝนจะตก เนื่องจากบนยอดเขามักถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกและมีอากาศหนาวเย็นตลอดเวลา ผู้สนใจจะไปสัมผัสยอดเขาโมโกจู ต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายเพราะจะต้องขึ้นเขาที่มีความลาดชั้นไม่ต่ำกว่า ๖0 องศา ใช้เวลาใน การเดินทางไป-กลับ ๕ วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนดนอกจากนั้นควรศึกษาสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ และติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางก่อนจากทางอุทยานฯ ก่อนตัดสินใจ จะไปสัมผัส โมโกจู ช่วงที่จะเปิดให้เดินขึ้นยอดเขาโมโกจู คือเดือนพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์
       ด้วยความสูงกว่า 1,950 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดแห่งหนึ่งในผืนป่าตะวันตก ตลอดทั้งปีที่นี่จะปกคลุมด้วยสายหมอกและเมฆฝน ยอดเขาแห่งนี้จึงได้ชื่อตามภาษากะเหรี่ยงว่า " โมโกจู " หมายถึงสถานที่ซึ่งมีฝนตกตลอดเวลา ในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นยะเยือก ดอกไม้นานาชนิดและกุหลาบป่าจะผลิบาน มองจากยอดเขาลงไปจะเห็นทะเลหมอกห่มคลุมผืนป่าจดโค้งขอบฟ้า เหนือป่าตะวันตกอันกว้างไกลสุดสายตา
       อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดนครสวรรค์ ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อนตามเทือกเขาถนนธงชัย ยอดที่สูงที่สุดคือ ยอดเขา โมโกจู เทือกเขานี้เป็นต้นน้ำของลำน้ำหลายสาย รวมถึงลำน้ำแม่วงก์ ป่าไม้ทั่วไปเป็นป่าเบญจพรรณสลับกับป่าเต็งรัง พบป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และทุ่งหญ้าในบางพื้นที่ และเนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทำให้มีการสัญจรของบรรดาสัตว์ป่านานาชนิด สภาพอากาศร้อนหนาวจัดตามฤดูกาล ฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อน เดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคม
    เส้นทางเดินป่าระยะไกล พิชิตยอดเขา โมโกจู เป็นการเดินทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนประสงค์ เพื่อเก็บเกี่ยวความประทับใจ และภาพทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา การเดินทางไป-กลับ ต้องใช้เวลา 4-5 วัน ซึ่งทางอุทยานฯ จะจัดการเดินป่าในช่วงเดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวจะต้องติดต่อจองช่วงเวลากับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ โดยตรงที่ 0 5571 9010-1 และจะต้องดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของทางอุทยานฯ ก่อนการเดินทางมาอุทยานฯ
    ภายในอุทยานฯ มีบริการสาธาณูปโภคไฟฟ้าและร้านค้า/ อาหาร มีบริเวณที่ทำการอุทยานฯ เท่านั้น และหากนักท่องเที่ยวประสงค์จะค้างแรม ก็มีบ้านพักไว้บริการที่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ จำนวน 2 หลัง ในอัตรา 2,000 บาทต่อคืน และบริเวณช่องเย็น จำนวน 5 หลัง ในอัตรา 1,500 บาทต่อคืน ทั้งนี้ จะต้องติดต่อจองที่พักล่วงหน้าที่ 0 2562 0760 หรือหากประสงค์จะกางเต็นท์ อุทยานฯ ได้จัดสถานที่ไว้บริการ 4 จุด คือ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ บริเวณแก่งผาคอยนาง บริเวณจุดชมวิวกิ่วกะทิง และบริเวณช่องเย็น สำหรับการจองเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามที่อุทยานฯ โดยตรง มีอัตราค่าเช่าระหว่าง 250 - 800 บาท ตามชนิดและขนาดเต็นท์ รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย ในกรณีที่มีเต็นท์มาเอง ต้องเสียค่าธรรมเนียมสถานที่ 30 บาทต่อคนต่อคืน หากต้องการเช่าชุดนอนทางอุทยานฯ ก็มีบริการให้เช่าในอัตรา 150 และ 200 บาทต่อชุดต่อคืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น